ระเบียบการบริหารงานบุคคลพนักงานส่วนท้องถิ่น

ขอส่งตัวพนักงานเทศบาลและขอให้พิจารณาโอนย้ายออกนอกพื้นที่ ข้อหารือ ก.ท.จ.สมุทรปราการ หารือแนวทางปฏิบัติว่า นายกเทศมนตรีตำบลและ ปลัดเทศบาล มีความขัดแย้งกันจนมีการฟ้องคดีต่อศาลปกครอง โดยปลัดเทศบาลตำบลบางเมืองฟ้องกรณีนายกเทศมนตรีตำบลบางเมือง ออกคำสั่งให้ปลัดเทศบาล ไปประจำสำนักงาน สมุทรปราการ เป็นคำสั่งที่ใช้เลขานุการ ก.ท.จ. ตามติ ก.ท.จ.ดุลพินิจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้น ในระหว่างที่มีการฟ้องศาลปกครองจะให้ปลัดเทศบาล มาประจำสำนักงานเลขานุการ ก.ท.จ. ได้หรือไม่ คำวินิจฉัย อ.ก.ท.กฎหมาย ในการประชุมครั้งที่ 2/2552 เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2552 พิจารณาแล้วเห็นว่า การที่ปลัดเทศบาลตำบลได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองเป็นการใช้สิทธิทางศาลโดยชอบด้วยกระบวนการยุติธรรมที่คู่กรณีในคดีที่พิพาทนี้จะต้องมีภาระการพิสูจน์และแก้ข้อกล่าวหาซึ่งกันและกัน การยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครอง จึงไม่อาจใช้เป็นเงื่อนไขในการพิจารณาส่งตัวปลัดเทศบาลตำบลบางเมืองคืนหรือโอนย้ายออกนอกพื้นที่ เพราะเหตุดังกล่าวได้ อย่างไร ก็ตาม หากความเป็นที่ปรากฏว่า ผู้บริหารของเทศบาลหรือพนักงานเทศบาลได้ยื่นคำร้องหรือรายงานพร้อมเหตุผลค

หารือกรณีรับโอนพนักงานส่วนตำบลก่อนยกฐานะเป็นเทศบาล คำวินิจฉัย 1. การสรรหาตำแหน่งปลัด อบต. ระดับ 7 ของ อบต.บัวบาน ก่อนจะยกฐานะเป็นเทศบาลซึ่งนายก อบต.บัวบาน เป็นผู้ดำเนินการสรรหาโดยวิธีการรับโอนพนักงานเทศบาล ตำแหน่งปลัดเทศบาล ระดับ 7 มาดำรงตำแหน่งดังกล่าว นั้นเป็นการดำเนินการตามลักเกณฑ์ของ ก.อบต.จังหวัด เมื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของ ก.ท.จ. จะต้องใช้หลักเกณฑ์ของ ก.ท.จ. ในการพิจารณา โดยนายกเทศมนตรีจะต้องเป็นผู้แสดงความประสงค์จะรับโอนบุคคลมาดำรงตำแหน่งที่ว่างดังกล่าว แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีจึงต้องรอให้มีนายกเทศมนตรีก่อน ก่อนที่ อบต. ยกฐานะเป็นเทศบาลตำแหน่งปลัด อบต. เป็นระดับ 7 ต่อมายกฐานะเป็นเทศบาล ย่อมทำให้ตำแหน่งปลัดเทศบาลเป็นระดับ 7 โดยผลของกฎหมายและอยู่ภายใต้กรอบโครงสร้างระดับตำแหน่งที่กำหนด การสรรหาตำแหน่งบริหารของเทศบาลโดยวิธีการรับโอน ว่าที่ ร.อ.อัครเดชฯ ซึ่งเป็นปลัดเทศบาล ระดับ 7 มาดำรงตำแหน่งปลัดเทศบาล ระดับ 7 เทศบาลตำบลบัวบาน นั้น จึงเป็นกรณีที่สามารถทำได้ เมื่อ อบต.บัวบาน ได้รับการยกฐานะเป็นเทศบาลตำบลบัวบาน การบริหารงานบุคคลของพนักงานส่วนท้อ

หารือกรณีการคัดเลือกพนักงานส่วนตำบลตำแหน่งผู้บริหารก่อนยกฐานะเป็นเทศบาล คำวินิจฉัย ก.ท.จ.กาฬสินธุ์ หารือแนวทางปฏิบัติกรณี อบต.อิตื้อ ดำเนินการสรรหาตำแหน่งบริหารแล้วเสร็จก่อนได้รับการยกฐานะเป็นเทศบาล จะสามารถบรรจุแต่งตั้งได้หรือไม่ ประเด็นการพิจารณา 2 ประเด็น คือ ประเด็นที่ 1 เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า นางชล ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ท.จ.กาฬสินธุ์ ให้นำคุณวุฒิปริญญาโทมาเทียบเป็นประสบการณ์การบริหาร เพื่อลดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งบริหารจาก 4 ปี เป็น 3 ปี จึงพิจารณาได้ว่าในห้วงระยะเวลาการรับสมัครคัดเลือกและดำเนินการคัดเลือก จนถึงวันที่ อบต.อิ ได้มีประกาศยกฐานะเป็นเทศบาล (18 ก.ค. 2551) นั้น นางชล เป็นผู้มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่กำหนด เพราะนางชล มิได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์การขอนำคุณวุฒิปริญญาโท มาเทียบเป็นประสบการณ์การบริหาร ข้อ 6 และข้อ 8 แห่งประกาศ ก.อบต. เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนในการนำคุณวุฒิปริญญาโทมาเทียบเป็นประสบการณ์การบริหารเพื่อลดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งบริหาร พ.ศ. 2550 กล่าวคือ ก.อบต.จังหวัดกาฬสินธุ์ ยังไม่ได้เห็นชอบให้นำคุณวุฒิปริญญาโทมาเทียบเป็นประสบก

หารือกรณีใช้คุณวุฒิปริญญาโทมาเทียบเป็นประสบการณ์ การบริหาร เพื่อลดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งบริหาร คำวินิจฉัย องค์ประกอบของประกาศ ก.ท. เรื่อง หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขในการนำคุณวุฒิปริญญาโทมาเทียบเป็นประสบการณ์การบริหารเพื่อลดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งบริหาร พ.ศ. 2550 โดยผู้ประสงค์จะขอนำคุณวุฒิปริญญาโท มาเทียบเป็นประสบการณ์การบริหาร ซึ่งจะต้องดำเนินการตามข้อ 6 และในวันสมัครคัดเลือกต้องนำหนังสือรับรองไปประกอบการรับสมัครตาม ข้อ 8 ของประกาศ ก.ท. ฉบับดังกล่าว ดังนั้น การขอนำคุณวุฒิปริญญาโท มาเทียบเป็นประสบการณ์การบริหาร ผู้นั้นจะต้องดำเนินการจัดทำแผนหรือคำรับรองการปฏิบัติราชการ และผลงานที่เป็นผลสัมฤทธิ์ เสนอ ก.ท.จ. ประเมินผลและให้ความเห็นชอบนำคุณวุฒิปริญญาโทมาเทียบเป็นประสบการณ์แล้วให้รายงานผลต่อสำนักงาน ก.ท. ตรวจสอบและออกหนังสือรับรอง และผู้นั้นจะต้องนำหนังสือรับรองไปประกอบการสมัครสอบในวันรับสมัครสอบคัดเลือกเพื่อเลื่อนระดับที่สูงขึ้น เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ในห้วงเวลารับสมัครคัดเลือก นางจิตราฯ ยังมิได้ดำเนินการใดๆ ให้ครบถ้วนตามองค์ประกอบที่กำหนดไว้ในข้อ 6 ประกอบ

เทศบาลตำบลหนองกุงศรีขอจัด “กองวิชาการและแผนงาน คำวินิจฉัย เห็นชอบ ทต.หนองกุงศรี จัดตั้งกองวิชาการและแผนงาน มีการแบ่งโครงสร้างส่วนราชการของกองวิชาการและแผนงาน ออกเป็น 5 งาน คือ งานธุรการ งานแผนงานและงบประมาณ งานประชาสัมพันธ์ งานบริการและเผยแพร่วิชาการ และงานนิติการ โดยงานบริการและเผยแพร่ งานประชาสัมพันธ์ ควรรวมเป็น 1 งาน คือ งานบริการและเผยแพร่ เพราะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน สำหรับงานนิติการอาจกำหนดขึ้นได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ การกำหนดอัตรากำลัง ภายในกองจำนวน 15 อัตรา โดยกำหนดเพิ่มขึ้น 2 อัตรา คือ หัวหน้ากองวิชาการและแผนงาน (ตำแหน่งนักบริหารงานทั่วไป 6) และตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ 2 – 4 /5

หารือหลักเกณฑ์การกำหนดตำแหน่งปลัดเทศบาล ระดับ 10 คำวินิจฉัย การที่ ก.ท.จ.นครสวรรค์ ได้กำหนดคุณสมบัติของพนักงานเทศบาลที่จะเข้ารับการคัดเลือกเป็นปลัดเทศบาล ระดับ 10 ว่า จะต้องดำรงตำแหน่งปลัดเทศบาล ระดับ 9 มาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ปี และต้องดำรงตำแหน่งในเทศบาลที่ขอประเมินติดต่อกันไม่น้อยกว่า 4 เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์การบริหารงานบุคคลเป็นไปตามมาตรฐานทั่วไปที่ ก.ท. กำหนด จึงเป็นการชอบแล้ว

หารือวันที่มีผลในการแต่งตั้งพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งในระดับที่สูงขึ้นในสายงานบริหาร คำวินิจฉัย การออกคำสั่งแต่งตั้งผู้ที่ผ่านการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งที่คัดเลือกนั้น จะต้องคำนึงถึงองค์ประกอบตามบทบัญญัติกฎหมายและหลักเกณฑ์การเลื่อนและ แต่งตั้งพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นอย่างครบถ้วน ดังนี้ 1.1 วันที่แต่งตั้งต้องไม่ก่อนวันที่ผ่านการคัดเลือก ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด 1.2 วันที่ออกคำสั่งต้องไม่ก่อนวันที่ ก.ท.จ. ให้ความเห็นชอบ ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย 1.3 วันที่แต่งตั้งต้องไม่ก่อนวันที่ผู้นั้นได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งนั้นจริง ซึ่งเป็นไปตามหลักข้อเท็จจริง 1.4 บัญชีผู้ผ่านการคัดเลือกต้องไม่หมดอายุ