ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ มติ ก.ท. ครั้งที่ 5/2552

หารือหลักเกณฑ์การคัดเลือกเพื่อเปลี่ยนสายงานที่เริ่มต้นจากสายงานในคุณวุฒิปริญญาตรี

ข้อหารือ ก.ท.จ.สมุทรปราการ ได้ขอหารือกรณีมีความเห็นว่า เทศบาลตำบลพระ ไม่บรรจุแต่งตั้งนางพรพนักงานเทศบาล ตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ 3 ซึ่งเป็น ผู้ผ่านการฝึกอบรมการเปลี่ยนสายงานเป็นสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ 3 ในหลักสูตรเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผนและมีสิทธิได้รับการบรรจุแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน สามารถกระทำได้ ความเห็นดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ คำวินิจฉัย กรณีตามข้อหารือดังกล่าว หลักเกณฑ์การคัดเลือกพนักงานเทศบาลที่ดำรงตำแหน่งในสายงานเริ่มต้นจากระดับ 1 และระดับ 2 มาดำรงตำแหน่งในสายงานเริ่มต้นจากระดับ 3 ด้วยวิธีการฝึกอบรม นั้น กระทำได้ก็ต่อเมื่อมีตำแหน่งว่าง และเทศบาลประสงค์จะสรรหาผู้ดำรงตำแหน่ง ที่ว่างด้วยวิธีดังกล่าว ดังนั้น การที่เทศบาลได้ดำเนินการคัดเลือกและส่งพนักงานเข้ารับการฝึกอบรม แต่ไม่ประสงค์แต่งตั้งผู้นั้นภายหลังการฝึกอบรม จึงพิจารณาได้ว่าเป็นปัญหาเกี่ยวกับการใช้ดุลยพินิจของเทศบาล ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ก.ท.จ. ที่พึงให้ข้อแนะนำถึงเหตุผลภายใต้เงื่อนไขหลักเกณฑ์ที่กำหนด และประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญ

การแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งในระดับที่สูงขึ้น

ข้อหารือ หารือการแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งในระดับที่สูงขึ้นสำหรับตำแหน่งผู้บริหาร 1ประเด็น ก.ท.จ. มอบอำนาจให้เทศบาลแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือก ได้หรือไม่ 2. ประเด็นกรณีที่เทศบาลมีตำแหน่งบริหารว่างลง เทศบาลจะสามารถสรรหาตำแหน่งบริหารที่ว่างนั้นได้เอง โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจาก ก.ท.จ. ก่อน ได้หรือไม่ คำวินิจฉัย ข้อหารือมีประเด็นที่จะต้องพิจารณา 2 ประเด็น คือ . ประเด็น1 พิจารณาได้ว่า เมื่อหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของเทศบาล ที่ ก.ท.จ.สมุทรสงคราม ประกาศใช้บังคับกับเทศบาล ได้กำหนดเงื่อนไขให้เทศบาลเป็นผู้ดำเนินการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งพนักงานเทศบาล ตำแหน่งผู้บริหารของเทศบาล ให้ดำรงตำแหน่งในระดับที่สูงขึ้น โดยแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือก เป็นไปตามองค์ประกอบที่ ก.ท.จ. กำหนด จึงพิจารณาได้ว่า ก.ท.จ. ได้กำหนดเงื่อนไขการแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกไว้ให้เทศบาลดำเนินการ หากเทศบาลได้ดำเนินการตามเงื่อนไข ที่กำหนด ก็ถือว่า ก.ท.จ. เห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการนั้นแล้ว ดังนั้น ประเด็นข้อหารือเกี่ยวกับ การมอบอำนาจในการแต่งตั้งคณะกรรมก

การพิจารณากำหนดสำนักงานในพื้นที่พิเศษ

หลักเกณฑ์การพิจารณากำหนดสำนักงานในพื้นที่พิเศษ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2552 คำวินิจฉัย ให้ก.ท.จ. ใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณากำหนดให้สำนักงานเทศบาลเป็นสำนักงานในพื้นที่พิเศษ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2552 โดยให้ใช้หลักเกณฑ์และรายละเอียดการให้คะแนนของหลักเกณฑ์แต่ละข้อ เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณากำหนดสำนักงานในพื้นที่พิเศษ มีคะแนนเต็ม 120 คะแนน ดังนี้ 1. ความยากลำบากของการคมนาคม(50 คะแนน) 2. ความขาดแคลนสาธารณูปโภค สาธารณูปการ หรือปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพ (20 คะแนน) 3. ความเสี่ยงภัย (30 คะแนน) 4. ความชุกชุมของโรคภัยไข้เจ็บ(20 คะแนน) สำนักงานใดมีคะแนนรวมตั้งแต่ 50 คะแนนขึ้นไป ถือว่าเป็นสำนักงานในพื้นที่พิเศษ ข้าราชการ และลูกจ้างประจำที่ปฏิบัติงานประจำหรือลักษณะประจำในสำนักงานนั้น จะได้รับเงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษคนละ 1,000 บาทต่อเดือน

หารือแนวทางการคัดค้านการแต่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัย

ข้อหารือ กรณี ทต. แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ต่อมาผู้ถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยอย่างไม่ร้ายแรง จำนวน 4 ราย ได้มอบอำนาจให้ทนายความยื่นคัดค้านการออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัย อย่างไม่ร้ายแรงนี้ โดย จว.นครราชสีมา มีความเห็น ดังนี้ 1. จังหวัดตรวจสอบแล้วพบว่า นายกเทศมนตรีตำบลจอหอ ไม่ได้มีส่วนร่วมกับการกระทำความผิดดังกล่าว ดังนั้นการออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างไม่ร้ายแรงดังกล่าว จึงชอบด้วยกฎหมาย 2. ประเด็นที่สองการที่ผู้ถูกกล่าวหามอบอำนาจให้ทนายความยื่นคัดค้านคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างไม่ร้ายแรงสามารถทำได้หรือไม่ 3ประเด็นสุดท้าย กรณีที่ผู้ถูกกล่าวหามอบอำนาจให้ทนายความแจ้งหนังสือ ต่อคณะกรรมการสอบสวนเพื่อขอให้ยุติกระบวนการสอบสวน หรือระงับการสอบสวนทางวินัยถือเป็นความผิดทางวินัยหรือไม่ คำวินิจฉัย ประเด็นแรก เห็นว่ากรณีดังกล่าว หาก ก.ท.จ.นครราชสีมา ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า นายกเทศมนตรีตำบลจอหอไม่ได้มีส่วนร่วมกับการกระทำความผิดดังกล่าว นายกเทศมนตรีตำบลจอหอ ย่อมสามารถออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสว

แต่งตั้งพนักงานเทศบาลสายงานนิติการให้ดำรงตำแหน่งในระดับที่สูงขึ้น

ข้อหารือ หารือการเลื่อนและแต่งตั้งพนักงานเทศบาลสายงานนิติการให้ดำรงตำแหน่งในระดับที่สูงขึ้น คำวินิจฉัย ให้นำหลักเกณฑ์การเลื่อนระดับและเงื่อนไขอื่นที่เกี่ยวข้องของตำแหน่งสายงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี งมาใช้พิจารณากับตำแหน่งสายงานนิติการด้วย ข้อหารือ หารือค่าตอบแทนการตรวจผลงานของคณะกรรมการประเมินผลงาน สายงานนิติการ คำวินิจฉัย ค่าตอบแทนตรวจผลงานและเงื่อนไขอื่น ที่เกี่ยวข้องของตำแหน่งสายงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้นำงมาใช้พิจารณากับตำแหน่งสายงานนิติการด้วย

เสนอร่างประกาศหลักเกณฑ์การสอบแข่งขันฯ ที่แตกต่างจากที่ ก.ท. กำหนด

ข้อหารือ ก.ท.จ.นครศรีธรรมราช เสนอร่างประกาศหลักเกณฑ์การสอบแข่งขันฯ ที่แตกต่างจากที่ ก.ท. กำหนด คำวินิจฉัย 1. การที่ ก.ท.จ.นครศรีธรรมราช ได้พิจารณานำความตามข้อ 7 ของประกาศ ก.ท. เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์การสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นพนักงานเทศบาล (แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 4) พ.ศ.2551 ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2551 กำหนดไว้ในข้อ 47 วรรคห้าของประกาศ ก.ท.จ.นครศรีธรรมราช เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของเทศบาลลงวันที่ 9 ธันวาคม 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2549 ซึ่งเป็นส่วนเกี่ยวกับการสอบแข่งขันเป็นการสมควรแล้ว 2. การเพิ่มข้อความโดยกำหนดระยะเวลากรณีหากมีการยกเลิกการขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้หรือขึ้นบัญชีไว้ตามเดิมให้รายงานคณะกรรมการพนักงานเทศบาลและคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล ภายใน 30 วันทำการนับแต่วันยกเลิกหรือขึ้นบัญชีนั้น เห็นว่า เป็นการกำหนดเงื่อนเวลาเพื่อที่จะเร่งรัดให้ผู้ดำเนินการสอบแข่งขันรายงานภายในระยะเวลาอันสมควรและเป็นไปในทางที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการบริหารงานบุคคลให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง ดังนั้น หาก ก.ท.จ.นครศรีธรรมราช จะเพิ่มเติมข้อความดังกล่าวก็อา

การบรรจุแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วยโดยผ่านการคัดเลือกกรณีมีเหตุพิเศษ

ข้อหารือ หารือการย้ายกรณีการบรรจุแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วยโดยผ่านการคัดเลือกกรณีมีเหตุพิเศษไม่ต้องสอบแข่งขันสำหรับครูอัตราจ้างเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานครูเทศบาลไม่ครบ 2 ปี คำวินิจฉัย ไม่อาจย้ายเปลี่ยนสายงานไปดำรงตำแหน่งนักวิชาการศึกษา 3 ได้เพราะขัดกับเงื่อนไขที่กำหนดว่า เมื่อได้รับการบรรจุแต่งตั้งแล้วจะต้องดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วยและผ่านการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มในตำแหน่งครูผู้ช่วย ณ เทศบาลที่บรรจุและแต่งตั้งเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี จึงจะสามารถแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครู และสามารถโอน (ย้าย) ไปที่อื่นได้ ซึ่งหมายถึงกรณี การโอน เปลี่ยนสังกัดและหรือการโอน การย้ายเปลี่ยนสายงาน

คุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกกรณีมีเหตุพิเศษไม่ต้องสอบแข่งขัน

หารือคุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกกรณีมีเหตุพิเศษไม่ต้องสอบแข่งขันสำหรับครูอัตราจ้างเพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นพนักงานครูเทศบาล ตำแหน่งครูผู้ช่วย ข้อหารือ จังหวัดยะลา หารือ กรณีผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นลูกจ้างประจำ ปฏิบัติหน้าที่ครูพิเศษสอน จำนวน 3 ราย ว่าจะมีคุณสมบัติเข้ารับการคัดเลือกกรณีพิเศษดังกล่าวได้หรือไม่ คำวินิจฉัย การตีความ“ครูอัตราจ้าง” ให้หมายรวมถึง พนักงานจ้างที่ปฏิบัติหน้าที่สอนในสถานศึกษาด้วย นั้นรวมถึงลูกจ้างประจำ ที่ปฏิบัติหน้าที่สอนในสถานศึกษาด้วย เนื่องจากตำแหน่งลูกจ้างเป็นตำแหน่งที่ถูกปรับเปลี่ยนเป็นพนักงานจ้างตามประกาศ ก.ท. เรื่อง มาตรฐานทั่วไปพนักงานจ้าง ประกาศ ณ วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2547