ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

คำสั่งทางปกครองต้องไม่มีผลย้อนหลัง

คดีหมายเลขแดงที่ อ.66/2553 คดีหมายเลขดำที่ อ.635/2550 ผู้ฟ้อง คดี (นายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่) ได้ออกประกาศรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการและแต่งตั้ง เป็นพนักงานเทศบาลสามัญ ระดับ 1 ระดับ 2 และระดับ 3 ประจำปี พ.ศ. 2549 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2549 ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (คณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล (ก.ท.)) และ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (คณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดบุรีรัมย์) ได้ออกประกาศหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของเทศบาล (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2547 โดยกำหนดรับสมัครสอบตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2549 ถึงวันที่ 6 มีนาคม 2549 และกำหนดสอบแข่งขันวันที่ 26 มีนาคม 2549 ในระหว่างนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีมติเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดำเนินการสอบแข่งขันใช้บัญชีเฉพาะองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ห้ามใช้บัญชีข้ามจังหวัด เว้นแต่กรณีที่ได้มีการประกาศ รับสมัครไว้ก่อนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 ให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ แต่หากยังไม่ถึงกำหนดวันสอบแข่งขัน ให้ประกาศเพิ่มเติมให้ผู้สมัครสอบแข่งขันทราบว่าไม่สามารถใช้บั

ป่วยก็ต้องลาป่วย

คดีหมายเลขแดงที่ อ.87/2553 คดีหมายเลขดำที่ อ.364/2550 ผู้ฟ้องคดีเป็นพนักงานเทศบาลสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม (นักบริหารงานสวัสดิการสังคม 7) เทศบาลนคร เชียงใหม่ ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง กรณีป่วยเข้ารับการรักษาตัวในสถานพยาบาล แต่เพื่อสร้างหลักฐานว่ามาปฏิบัติราชการจึงได้ให้ผู้ใต้บังคับบัญชานำสมุดลง ลายมือชื่อมาให้ผู้ฟ้องคดีลงนาม ณ สถานพยาบาล โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชา การที่ผู้ฟ้องคดีอ้างว่ามีงานเร่งด่วนต้องปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากน้ำท่วมจึงต้องกระทำการเช่นนั้น เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของผู้ฟ้องคดีเองจะได้ไม่ต้องเสียวันลาซึ่งอาจมี ผลกระทบต่อการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนของผู้ฟ้องคดี และในฐานะที่ผู้ฟ้องคดีเป็นข้าราชการระดับบริหารที่ต้องปกครองดูแลผู้ใต้ บังคับบัญชายิ่งเป็นการไม่สมควรที่จะประพฤติปฏิบัติเช่นนี้ที่จะให้ผู้ใต้ บังคับบัญชาเอาเยี่ยงอย่าง นอกจากนี้ การที่ผู้ฟ้องคดีไม่ยื่นใบลาป่วยตามข้อ 17 วรรคหนึ่ง ของระเบียบ ก.ท. ว่าด้วยการลาของพนักงานเทศบาล พ.ศ. 2535 จึงเป็นกรณีที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องตามแบบธรรมเนียมปฏิบัติของทางรา

ป่วยก็ต้องลาป่วย

คดีหมายเลขแดงที่ อ.87/2553 คดีหมายเลขดำที่ อ.364/2550 ผู้ฟ้องคดีเป็นพนักงานเทศบาลสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม (นักบริหารงานสวัสดิการสังคม 7) เทศบาลนคร เชียงใหม่ ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง กรณีป่วยเข้ารับการรักษาตัวในสถานพยาบาล แต่เพื่อสร้างหลักฐานว่ามาปฏิบัติราชการจึงได้ให้ผู้ใต้บังคับบัญชานำสมุดลง ลายมือชื่อมาให้ผู้ฟ้องคดีลงนาม ณ สถานพยาบาล โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชา การที่ผู้ฟ้องคดีอ้างว่ามีงานเร่งด่วนต้องปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากน้ำท่วมจึงต้องกระทำการเช่นนั้น เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของผู้ฟ้องคดีเองจะได้ไม่ต้องเสียวันลาซึ่งอาจมี ผลกระทบต่อการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนของผู้ฟ้องคดี และในฐานะที่ผู้ฟ้องคดีเป็นข้าราชการระดับบริหารที่ต้องปกครองดูแลผู้ใต้ บังคับบัญชายิ่งเป็นการไม่สมควรที่จะประพฤติปฏิบัติเช่นนี้ที่จะให้ผู้ใต้ บังคับบัญชาเอาเยี่ยงอย่าง นอกจากนี้ การที่ผู้ฟ้องคดีไม่ยื่นใบลาป่วยตามข้อ 17 วรรคหนึ่ง ของระเบียบ ก.ท. ว่าด้วยการลาของพนักงานเทศบาล พ.ศ. 2535 จึงเป็นกรณีที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องตามแบบธรรมเนียมปฏิบัติของทางรา

คำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนเป็นคำสั่งทางปกครอง

คำสั่งศาลปกครองระยอง คดีหมายเลขแดงที่ 40/2546 สรุปข้อเท็จจริง ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และผู้อำนวยการโรงพยาบาลขลุง ออกคำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนให้แก่ผู้ฟ้องคดี ประจำปีงบประมาณ ๒๕๔๔ เพียง ๐.๕ ขั้น ทำให้ผู้ฟ้องคดีไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากเป็นการใช้อำนาจกลั่นแกล้ง ประเมินผลการปฏิบัติงานต่ำกว่าความเป็นจริง ผู้ฟ้องคดีจึงได้ร้องทุกข์ต่อ อ.ก.พ. จังหวัดจันทบุรี แต่ อ.ก.พ. จังหวัดจันทบุรี กลับยกคำร้องทุกข์ของผู้ฟ้องคดี ผู้ฟ้องคดีจึงนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครอง คำวินิจฉัย ศาลปกครองระยองพิจารณาแล้วเห็นว่า คำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนดังกล่าวเป็นคำสั่งทางปกครองตามนัยมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙และเนื่องจากพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ มิได้กำหนดวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองในเรื่องนี้ไว้โดยเฉพาะจึงต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงในคดีฟังได้ว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลขลุงมีเหตุโกรธเคือง และขัดแย้งกับผู้ฟ้องคดีมาก่อน จึงเห็นได้ว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลขลุงในฐานะผู

ความล่าช้าเป็นบ่อเกิดของความอยุติธรรม

คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ที่ 260/2546 (ประชุมใหญ่) ในกรณีที่ไม่มีกฎหมายกำหนดระยะเวลาในการพิจารณา คำขอ หรือการกระทำใด ๆ ของหน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่รัฐ สำหรับเรื่องนั้นๆ ไว้เป็นการเฉพาะ หน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ควรดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับเรื่อง

คุณสมบัติผู้มีสิทธิสอบคัดเลือกเพื่อเปลี่ยนสายงาน

ข้อหารือ ก.ท.จ.สระบุรี หารือคุณสมบัติของผุ้มีสิทธิสอบคัดเลือกเพื่อเปลี่ยนสายงาน จากสายงานผู้ปฏิบัติเป็นสายงานผู้บริหาร ตำแหน่ง หัวหน้าฝ่ายสวัสดิการสังคม (นักบริหารงานสวัสดิการสังคม 7) ของเทศบาลตำบลหนองแค ในประเด็นการดำรงตำแหน่ง ในระัดับ 7 ว. หรือ 7 วช. หรือ ก.ท.เทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี นั้น หมายถึง ผู้มีสิทธิสอบคัดเลือกจะต้องดำรงตำแหน่ง สายงานสวัสดิการสังคมในระัดับ 7 ว. หรือหมายถึง ผู้ดำรงตำแหน่งใดๆ ในระดับ 7 หรือ 7 วช. คำวินิจฉัย คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสอบคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าฝ่าย (นักบริหารงานสวัสดิการสังคม 7) เป็นไปตามประกาศ ก.ท. เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการสอบคัดเลือกสำหรับพนักงานเทศบาล ฉบับลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งกำหนดเงื่อนไขคุณสมบัติของผู้มีสิทธิสอบคัดเลือกเพื่อเปลี่ยนสายงานผุ้ปฏิบัติและตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะเป็นสายงานผู้บริหาร โดยกำหนดให้ผู้มีสิทธิสอบคัดเลือกจะต้องดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งในระดับ 7 ว. หรือ 7 วช. มาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี ในทุกสายงาน และมีคุณสมบัติอื่นครบตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการสอบคัดเลือกสำหรับพนักงานเทศบาลก็มีสิทธิสอบ

การเทียบหลักสูตรนักบริหารงานมืออาชีพเป็นหลักสูตรนักบริหารงานระดับสูง

ข้อหารือ 1.อบจ.สงขลา หารือว่ากรณีผู้สำเร็จการศึกษาอบรมหลักสูตรนักบริหารงานมืออาชีพ (ระดับ 9) จะถือเป็นหลักสูตรนักบริหารงานระดับสูงที่ ก.จ.รับรอง หรือไม่ 2.นาย ส.รองปลัดเทศบาลนครสงขลา (นักบริหารงานเทศบาลระดับ 9) มีหนังสือขอให้พิจารณาเพิ่มเติมหลักเกณฑ์คุณสมบัติของ ปลัด อบจ.ระดับ 9 โดยให้รองปลัดเทศบาลระดับ 9 ที่ดำรงตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และผ่านการศึกษาอบรมหลักสูตรนักบริหารงานมืออาชีพของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นผู้มีคุณสมบัติในการคัดเลือกเพื่อดำรงตำแหน่งปลัด อบจ.ระดับ 9 คำวินิจฉัย 1.รับรองหลักสูตรนักบริหารงานมืออาชีพ (ระดับ 9) เป็นหลักสูตรที่เป็นคุณสมบัติในการคัดเลือกเพื่อดำรงตำแหน่งปลัด อบจ.ระดับ 9 ได้ 2. กรณีนาย ส.นั้นไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากการคัดเลือก เพื่อเลื่อนและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในระดับที่สูงขึ้นในตำแหน่ง ปลัด อบจ.ระดับ 9 ไม่ได้กำหนดให้ข้าราชการประเภทอื่น มาสมัครคัดเลือกเพื่อเลื่อนและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในระดับท่สูงขึ้นได้ ทั้งนี้การรับโอนพนักงานเทศบาลมาดำรงตำแหน่ง ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด ระดับ 9 ผุ้นั้นต้องดำรงตำแหน่งปลัดเทศบาล ระดับ 9 ซึ่งเป็