ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ค่าจ้างผู้ดูแลเด็ก

แนวทางการกำหนดค่าตอบแทน(ค่าจ้าง) สำหรับพนักงานจ้างในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก

๑.พนักงานจ้างทั่วไป ตำแหน่งที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลเด็กเล็ก (ผู้ดูแลเด็กเล็ก) กำหนดให้ได้รับค่าตอบแทน(ค่าจ้าง) ในอัตราเดือนละ ๕,๐๘๐ บาท

๒.พนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่ง ผู้ช่วยหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และหรือ ตำแหน่งผู้ช่วยครูผู้ดูแลเด็กเล็ก สำหรับผู้มีทักษะ ซึ่งกำหนดลักษณะงานและคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งโดยใช้ทักษะเฉพาะของบุคคล จะต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและทักษะในการปฏิบัติหน้าที่ไม่ต่ำกว่า ๕ ปี ให้ได้รับค่าตอบแทน(ค่าจ้าง)เริ่มต้นที่ ขั้นต่ำสุดของอันดับ จ.๑ ปัจจุบันอัตรา ๕,๗๖๐ บาท

๓.พนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่ง ผู้ช่วยหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กปละหรือตำแหน่งผู้ช่วยครูผู้ดูแลเด็ก สำหรับผู้มีคุณวุฒิ ซึ่งกำหนดลักษณะงานและคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและหรือผู้ดูแลเด็กเล็กกำหนดให้ได้รับค่าตอบแทน(ค่าจ้าง) ดังต่อไปนี้

(๑) ผู้ได้รับคุณวุฒิปริญญาตรี ที่ตรงตามคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและหรือผู้ดูแลเด็กเล็ก แล้วแต่กรณี ให้ได้รับค่าตอบแทน(ค่าจ้าง) เริ่มต้นที่ขั้นต่ำสุดของอันดับ จ.๓ (ปัจจุบันอัตรา ๗,๙๔๐ บาท)

(๒) ผู้ได้รับวุฒิปริญญาตรี หลักสูตร ๕ ปี ที่ตรงตามคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและหรือผู้ดูแลเด็กเล็ก แล้วแต่กรณี ให้ได้รับค่าตอบแทน(ค่าจ้าง) เริ่มต้นที่ขั้น ๓ ของอันดับ จ.๓ (ปัจจุบันอัตรา ๘,๗๐๐ บาท)

(๓) ผู้ที่ได้รับปริญญาโทปี ที่ตรงตามคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและหรือผู้ดูแลเด็กเล็ก แล้วแต่กรณี ให้ได้รับค่าตอบแทน(ค่าจ้าง) เริ่มต้นที่ขั้นต่ำสุด ของอันดับ จ.๔ (ปัจจุบันอัตรา ๙,๗๐๐ บาท)

หนังสือสำนักงาน ก.จ. ก.ท.และ ก.อบต.ที่ มท ๐๘๐๙.๙/ว ๓ ลงวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๔

ความคิดเห็น

  1. นโยบายรัฐบาล ป.ตรี 15,000 บาทพนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่ง ผู้ช่วยหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจะได้รับการดูแลหรือไม่ใครมีอำนาจช่วยดูแลให้ด้วย

    ตอบลบ
  2. อยากทราบว่า ตำแหน่งผู้ช่วยครูผู้ดูแลเด็ก ถ้าเทียบตำแหน่งกับ กพ. แล้ว ถือว่าเป็นพนักงานราชการหรือไม่ครับ ลักษณะงานจะเหมือนกับการจ้างรายเดือน และถือเป็นพนักงานของรัฐประเภทหนึ่งหรือไม่

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อำนาจปลัดเทศบาลปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรี

หนังสือสำนักงาน ก.ท.ที่ มท ๐๘๐๙.๒/ว ๑๗๑ ลงวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๔เรื่อง ขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่ของปลัดองค์กรปกครอองส่วนท้องถิ่นในการปฏิบัติหน้าที่นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกรณีไม่มีนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ก.ท. ในการประชุมครั้งที่ ๙/๒๕๕๔ เมื่อวันที่  ๒๙ กันยายน ๒๕๕๔ ได้มีมติให้ถือปฏิบัติตามแนวทางของมติ ก.อบต.ในคราวการประชุมครั้งที่  ๕/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ที่ให้ตอบข้อหารือของจังหวัดจันทบุรี กรณีปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลซึ่งปฏิบัติหน้าที่แทนนายกองค์การบริหารส่วนตำบล จะสามารถพิจารณากรณีโอน(ย้าย) พนักงานส่วนตำบลสายผู้ปฏิบัติได้หรือไม่ การใช้อำนาจของผู้ครองอำนาจชั่วคราวที่กฎหมายกำหนดให้ใช้เท่าที่จำเป็น เป็นกรณีที่ต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไป และไม่อาจกำหนดอำนาจที่แน่นอนได้  สำหรับขอบเขตของคำว่า เท่าที่จำเป็น   เห็นว่าเมื่อไม่ปรากฏนิยามของคำว่าเท่าที่จำเป็น ไว้ในกฎหมายเป็นการเฉพาะจึงอาจพิจารณาเทียบเคียงความหมายของคำว่า จำเป็น ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒  ที่อธิบายคุณลักษณะว่า “ต้องเป็นอย่างนั้น,ต้องทำ,ขาดไม่ได้” ดังนั้นการพิจารณ...

ครูผู้ดูแลเด็กเล็ก

ประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกกรณีพิเศษไม่ต้องสอบแข่งขันสำหรับหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและครูผู้ดูแลเด็กเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานครูเทศบาล คณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 8/2553 เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2553 เห็นชอบให้กำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกกรณีที่มรเหตุพิเศษโดยไม่จำเป็นต้องสอบแข่งขันสำหรับหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและครูผู้ดูแลเด็กเล็กเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานครูเทศบาล โดยมีสาระสำคัญดังนี้ - ตำแหน่งที่จะสามารถคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นกรณีพิเศษได้ ได้แก่พนักงานครูเทศบาลในตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ครูผู้ดูแลเด็กเล็ก และหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก - คุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกกรณีมีเหตุพิเศษ 1. ดำรงตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็ก และ/หรือ หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งจัดจ้างโดยงบประมาณเงินอุดหนุนจากรัฐและจากเงินรายได้ของท้องถิ่นติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี และ 2. เป็นผู้มีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล เรื่องมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเบื้องต้นสำหรับ...

หลักเกณฑ์การให้ทุนการศึกษา

หลักเกณฑ์การให้ทุนการศึกษาและการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๑.บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะรับทุนการศึกษาทั้งระดับปริญญาโทและปริญญาตรีจะต้อง - ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการคัดเลือกให้เป็นผู้รับทุนการศึกษา ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์ว่าด้วยการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น -ให้พิจารณาในสัดส่วนของผู้บริหารท้องถิ่นหรือสมาชิกสภาท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นฝ่ายละเท่าๆกัน และสามารถเฉลี่ยสัดส่วนกันได้ -สามารถเฉลี่ยจำนวนทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ก็สามารถทำได้ แต่ค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณต้องไม่เกินจำนวนที่สามารถตั้งงบประมาณได้ ทั้งนี้อยู่ในดุลยพินิจของผู้บริหาร ๒.บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีสิทธิรับทุนการศึกษา สามารถเข้าศึกษาในสาขาวิชาที่กำหนดเป็นคุณวุฒิตามคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งในทุกตำแหน่งที่คณะกรรมการกลางขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบจ. เทศบาล และ อบต.)กำหนด ๓.สาขาที่เข้าศึกษาควรเป็นหลักสูตรพิเศษที่ใช้เวลาการศึกษานอกเวลาราชการ ๔.ระหว่างการศึกษาโดยได้รับทุนก...