ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

หลักเกณฑ์การให้ทุนการศึกษา

หลักเกณฑ์การให้ทุนการศึกษาและการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
๑.บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะรับทุนการศึกษาทั้งระดับปริญญาโทและปริญญาตรีจะต้อง
- ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการคัดเลือกให้เป็นผู้รับทุนการศึกษา ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์ว่าด้วยการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
-ให้พิจารณาในสัดส่วนของผู้บริหารท้องถิ่นหรือสมาชิกสภาท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นฝ่ายละเท่าๆกัน และสามารถเฉลี่ยสัดส่วนกันได้
-สามารถเฉลี่ยจำนวนทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ก็สามารถทำได้ แต่ค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณต้องไม่เกินจำนวนที่สามารถตั้งงบประมาณได้ ทั้งนี้อยู่ในดุลยพินิจของผู้บริหาร
๒.บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีสิทธิรับทุนการศึกษา สามารถเข้าศึกษาในสาขาวิชาที่กำหนดเป็นคุณวุฒิตามคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งในทุกตำแหน่งที่คณะกรรมการกลางขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบจ. เทศบาล และ อบต.)กำหนด
๓.สาขาที่เข้าศึกษาควรเป็นหลักสูตรพิเศษที่ใช้เวลาการศึกษานอกเวลาราชการ
๔.ระหว่างการศึกษาโดยได้รับทุนการศึกษา เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่สามารถโอนไปรับราชการที่ส่วนราชการอื่น ยกเว้นโอนไปรับราชการที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล มิฉะนั้น จะต้องชดใช้ทุนการศึกษา พร้อมกับค่าปรับ จำนวน ๒ เท่า ของทุนที่ได้รับ
๕.เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ได้รับทุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท เมื่อจบการศึกษาแล้ว จะต้องกลับมาปฏิบัติงานเพื่อชดใช้ทุนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า ๒ เท่า ของระยะเวลาที่รับทุน นับแต่วันที่สำเร็จการศึกษา หากไม่กลับมาปฏิบัติงานชดใช้ทุนจะต้องชดใช้ทุนที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจ่ายไปแล้วทั้งสิ้น พร้อมกับค่าปรับอีกเป็นเงินอีก ๒ เท่า ของจำนวนทุนดังกล่าวให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้ให้ทุนทันที
- สำหรับผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่นที่พ้นจากตำแหน่ง เว้นแต่ถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากกระทำผิดตามกฎหมาย ซึ่งจะมีสิทธิได้รับทุนต่อไป จนสำเร็จการศึกษาตามประกาศของกระทรวงมหาดไทยนั้ หากพ้นจากตำแหน่งก่อนวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๒ ซึ่งเป็นวันที่ประกาศนี้ผลใช้บังคับ ต้องใช้ทุนส่วนตัวเรียนเองไม่มีสิทธิใช้ทุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและถ้ายังเรียนไม่จบการศึกษาตามกำหนดเวลาตั้งแต่วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๒ เป็นต้นไป มีสิทธิรับทุนต่อไปตามประกาศดังกล่าว
๖.ผู้รับทุนการศึกษา ต้องจัดทำสัญญากับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนเองสังกัดตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์ว่าด้วยการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลงวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๔๗ สำหรับกรณีโอนย้ายไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใหม่ก็ต้องจัดทำสัญญาด้วยเช่นกัน
๗.ค่าใช้จ่ายในการศึกษาระดับปริญญาโท ให้เบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริงตามที่สถาบันการศึกษาได้รับอนุญาตให้เรียกเก็บ แต่ไม่เกินปีงบประมาณละ ๖๐,๐๐๐ บาท ตลอดหลักสูตรไม่เกิน ๒ ปี หรือไม่เกิน ๑๒๐,๐๐๐ บาท ทั้งนี้รวมค่าอุปกรณ์การศึกษาและค่าหนังสือด้วย
๘.ค่าใช้จ่ายการศึกษาระดับปริญญาตรี
๘.๑ กรณีศึกษาในสถาบันการศึกษาหรือหลักสูตรที่มีข้อตกลงกับกระทรวงมหาดไทยหรือกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นให้เบิกจ่ายได้ตามที่มีข้อตกลงกัน
๘.๒ กรณีศึกษาในสถาบันการศึกษาอื่นให้เบิกจ่ายได้เท่าที่เบิกจ่ายจริงตามที่สถานศึกษาได้รับอนุญาตให้เรียกเก็บ แต่ไม่เกินปีงบประมาณละ ๓๓,๐๐๐ บาท ตลอดหลักสูตร ๔ ปี หรือไม่เกิน ๑๓๒,๐๐๐ บาท ทั้งนี้รวมค่าอุปกรณ์การศึกษาและค่าหนังสือด้วย
๙.ระหว่างที่รับทุนจากองค์กรปกรองส่วนท้องถิ่นหากมีความจำเป็นต้องโอน(ย้าย) ไปปฏิบัติราชการที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่รับโอน(ย้าย)จะต้องรับภาระเรื่องทุนที่ยังต้องชำระตลอดหลักสูตร
๑๐.ให้ผู้ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการศึกษายืมเงินทดรองจ่ายตามงบประมาณที่ได้รับอนุญาตนำไปชำระเป็นค่าใช้จ่ายตามที่สถาบันการศึกษาเรียกเก็บตามข้อ ๗ หรือ ข้อ ๘ และให้นำใบเสร็จรับเงินที่ออกให้โดยสถานศึกษามาเป็นหลักฐานส่งใช้เงินยืมหรือในกรณีที่ได้สำรองจ่ายเงินส่วนตัวไปก่อนแล้วก็ให้นำใบเสร็จรับเงินที่ออกให้โดยสถาบันการศึกษามาขอเบิกจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
๑๑.กรณีพนักงานจ้างและลูกจ้างหรือผู้รับทุน ซึ่งได้รับทุนในการเรียนปริญญาตรีหรือปริญญาโท มิให้นำมาเป็นเงื่อนไขในการเรียกร้องเพื่อขอบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น โดยวิธีคัดเลือกกรณีมีเหตุพิเศษ
วิธีการตั้งงบประมาณ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อให้ทุนการศึกษาจากฐานรายได้ทุกประเภทและรวมถึงเงินอุดหนุนทั่วไปที่ต้องนำมาจัดทำงบประมาณตามระเบียบว่าด้วยวิธีการงบประมาณฯของปีที่ผ่านมา ดังนี้
๑.รายได้ไม่เกิน ๕ ล้านบาท ให้ตั้งงบประมาณสำหรับเป็นทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีไม่เกิน ๑๒ คน ปริญญาโทไม่เกิน ๒ คน
๒.รายได้เกิน ๕ ล้านบาท แต่ไม่เกิน ๒๐ ล้านบาทให้ตั้งงบประมาณสำหรับเป็นทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีไม่เกิน ๑๖ คน ปริญญาโทไม่เกิน ๓ คน
๓.รายได้เกิน ๒๐ ล้านบาท แต่ไม่เกิน ๕๐ ล้านบาทให้ตั้งงบประมาณสำหรับเป็นทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีไม่เกิน ๒๐ คน ปริญญาโทไม่เกิน ๔ คน
๔.รายได้เกิน ๕๐ ล้านบาท แต่ไม่เกิน ๑๕๐ ล้านบาทให้ตั้งงบประมาณสำหรับเป็นทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีไม่เกิน ๒๐คน ปริญญาโทไม่เกิน ๔ คน
๕.รายได้เกิน ๑๕๐ ล้านบาท ขึ้นไปให้ตั้งงบประมาณสำหรับเป็นทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีไม่เกิน ๒๘ คน ปริญญาโทไม่เกิน ๖ คน
การตั้งงบประมาณข้างต้น หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ทุนแก่บุคลากรครบตามจำนวนแล้ว จะให้ทุนการศึกษาอีกไม่ได้จนกว่าผู้ที่รับทุนการศึกษาก่อนหน้าจะได้เบิกค่าเล่าเรียนครบตามจำนวนแล้ว


หนังสือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่ มท ๐๘๐๘.๒/ว ๑๘๒๙ ลงวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๒

บันทึกเพิ่มเติม

ตามหนังสือ กระทรวงมหาดไทยที่ มท ๐๘๐๘.๒/ว ๒๔๒๘ ลงวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๒

- ส่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องหลักเกณฑ์ว่าด้วยการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ๖) มีสาระสำคัญ คือ

๑.แก้ไขให้บุคลากรของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถรับทุนการศึกษาปริญญาตรีหรือปริญญาโท เพื่อศึกษาในสถาบันศึกษาได้ทั้งของรัฐหรือเอกชน
๒.แก้ไขให้ผู้บริหารท้อง ถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่นผู้ได้รับทุน หากพ้นจากตำแหน่งก็ให้ได้รับทุนต่อไปจนสำเร็จการศึกษา เว้นแต่ถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากกระทำความผิดตามกฎหมาย

หนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้อง

ซักซ้อมวิธีการให้ทุนการศึกษาและการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (มท 0808.2/ว1829)

แนวทางการตอบข้อหารือกรณีการให้ทุนการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (มท 0807.3/ว1530)


หลักเกณฑ์ว่าด้วยการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (มท 0808.2/ว2428)


การจัดทำสัญญารับทุนการศึกษาของบุคลากรท้องถิ่น (มท 0807.3/ว1305)


แนวทางพิจารณาการชดใช้ทุนการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (มท 0807.3/ว2508)


ซักซ้อมวิธีการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาการจัดการงานช่างและผังเมือง สาขาการจัดการระบบสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม และสาขาการจัดการการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ด่วนมาก ที่ มท 0808.2/ว796)

ซักซ้อมวิธีการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (มท 0808.2/ว703)


ซักซ้อมกรณีให้ทุนการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (มท 0807.2/ว2549)


ซักซ้อมวิธีการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (มท 0808.2/ว2216)

ซักซ้อมวิธีการให้ทุนการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ด่วนที่สุด ที่ มท 0807.2/ว2016)

ซ้กซ้อมวิธีการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (มท 0808.2/ว1342)

หลักเกณฑ์ว่าด้วยการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (มท 0808.2/ว2260)


ซักซ้อมวิธีการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น


หลักเกณฑ์ว่าด้วยการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

หลักเกณฑ์ว่าด้วยการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

หลักเกณฑ์ว่าด้วยการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ซักซ้อมวิธีการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น


หลักเกณฑ์ว่าด้วยการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (เพิ่มเติม)


ซักซ้อมวิธีการตั้งงบประมาณและการเบิกจ่ายเงินเพื่อให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาโทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

หลักเกณฑ์ว่าด้วยการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ความคิดเห็น

  1. ถ้าเรียนทุน อบต.หลักสูตรสาธารณสุขศาสตร์ จบไปแล้วต้องได้ใช้ทุนกี่ปีคะ แล้วจะเป็นอัตราจ้าง หรือข้าราชการเลยคะ (หรือต้องไปสอบ กพ.ก่อนหรือไม่)

    ตอบลบ
  2. เรียนทุนเทศบาลของกระทรวงมหาดไทย ป.ตรี กับราชภัฎบุรีรัมย์แต่ไม่ได้ทำสัญญาร่วมกันจ่ายได้แต่ค่าเทอม 7000 บาท ค่าอุปกรณ์เรียนต้องซื้อเองอีกมากมายเรียน สาขาการก่อสร้าง แต่ทางเทศบาลมีค่าอุปกรณ์เรียน 5000 บาท
    ตรงกันข้ามทางราชภัฎไม่สามารถทำใบเสร็จตัวนี้ได้มีหนทางไหนที่จะทำได้
    ครับ จากลูกจ้างจนจนกับความตั้งใจจริง

    ตอบลบ
  3. หากรับทุนมาแล้ว ๑ ภาคการศึกษา แล้วจะขอเปลี่ยนแปลง สาขาและสถาบัน ที่เรียนใหม่ได้ไหมครับ ถ้าได้ ต้องทำอย่างไรครับ

    ตอบลบ
  4. ขอลดโทษปรับ5เท่า เนื่องจากมีเหตุสุดวิสัย
    จะได้ไหมครับ เดือดร้อนมากครับโดนโทษปรับ5เท่า
    สำนึกผิดแล้ว ขอคำแนะนำด้วยครับ

    ตอบลบ
  5. ใช้ทุนเรียนของอบต.เรียนครู ตอนนี้ทำงานชดใช้มา5ปีละค่ะ แต่ตอนนี้จะย้ายไปทำงานธุรการกองช่างในอบต.เดิมได้ไหมค่ะ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนเป็นคำสั่งทางปกครอง

คำสั่งศาลปกครองระยอง คดีหมายเลขแดงที่ 40/2546 สรุปข้อเท็จจริง ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และผู้อำนวยการโรงพยาบาลขลุง ออกคำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนให้แก่ผู้ฟ้องคดี ประจำปีงบประมาณ ๒๕๔๔ เพียง ๐.๕ ขั้น ทำให้ผู้ฟ้องคดีไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากเป็นการใช้อำนาจกลั่นแกล้ง ประเมินผลการปฏิบัติงานต่ำกว่าความเป็นจริง ผู้ฟ้องคดีจึงได้ร้องทุกข์ต่อ อ.ก.พ. จังหวัดจันทบุรี แต่ อ.ก.พ. จังหวัดจันทบุรี กลับยกคำร้องทุกข์ของผู้ฟ้องคดี ผู้ฟ้องคดีจึงนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครอง คำวินิจฉัย ศาลปกครองระยองพิจารณาแล้วเห็นว่า คำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนดังกล่าวเป็นคำสั่งทางปกครองตามนัยมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙และเนื่องจากพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ มิได้กำหนดวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองในเรื่องนี้ไว้โดยเฉพาะจึงต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงในคดีฟังได้ว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลขลุงมีเหตุโกรธเคือง และขัดแย้งกับผู้ฟ้องคดีมาก่อน จึงเห็นได้ว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลขลุงในฐานะผู

ครูผู้ดูแลเด็กเล็ก

ประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกกรณีพิเศษไม่ต้องสอบแข่งขันสำหรับหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและครูผู้ดูแลเด็กเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานครูเทศบาล คณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 8/2553 เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2553 เห็นชอบให้กำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกกรณีที่มรเหตุพิเศษโดยไม่จำเป็นต้องสอบแข่งขันสำหรับหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและครูผู้ดูแลเด็กเล็กเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานครูเทศบาล โดยมีสาระสำคัญดังนี้ - ตำแหน่งที่จะสามารถคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นกรณีพิเศษได้ ได้แก่พนักงานครูเทศบาลในตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ครูผู้ดูแลเด็กเล็ก และหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก - คุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกกรณีมีเหตุพิเศษ 1. ดำรงตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็ก และ/หรือ หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งจัดจ้างโดยงบประมาณเงินอุดหนุนจากรัฐและจากเงินรายได้ของท้องถิ่นติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี และ 2. เป็นผู้มีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล เรื่องมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเบื้องต้นสำหรับ