หลักเกณฑ์การให้ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้าง
และพนักงานจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว
พ.ศ.๒๕๕๕ ส่งตามหนังสือสำนักงาน ก.จ.,ก.ท. และ ก.อบต. ด่วนที่สุด ที่ มท
๐๘๐๙.๓/ว.๑๒๕๙ ลงวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕
๑.ให้ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น
ลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้างตามภารกิจ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ซึ่งได้รับเงินเดือน หรือค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนไม่ถึงเดือนละ ๑๒,๒๘๕ บาท
ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเดือนละ ๑,๕๐๐ บาท
แต่เมื่อรวมกับเงินเดือนหรือค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนแล้วต้องไม่เกินเดือนละ ๑๒,๒๘๕
บาท
กรณีจำนวนเงินที่ได้รับตามวรรคหนึ่งรวมกันแล้วไม่ถึงเดือนละ
๘,๖๑๐ บาท ให้ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้างประจำ
และพนักงานจ้างตามภารกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากเงินเดือนหรือค่าจ้างหรือค่าตอบแทนอีกจนถึงเดือนละ
๘,๖๑๐ บาท
สำหรับพนักงานจ้างทั่วไปขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ให้ได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวเดือนละ ๑,๕๐๐ บาท
โดยให้ถือปฏิบัติตามนัยหนังสือสำนักงาน ก.จ.,ก.ท. และ ก.อบต.ด่วนที่สุด ที่ มท
๐๘๐๙.๓/ว ๑๑๕ ลงวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๑
ทั้งนี้ข้อ ๑.
ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔
๒.ในกรณีที่ตำแหน่งของข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น
ลูกจ้างประจำ พนักงานจ้างตามภารกิจ และพนักงานทั่วไปขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่
ก.จ.,ก.ท. และ ก.อบต. ได้กำหนดให้คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งนั้นต้องใช้วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป
ให้ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้างประจำ พนักงานจ้างตามภารกิจ
และพนักงานจ้างทั่วไปขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ซึ่งบรรจุหรือแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวที่มีเงินเดือน
หรือค่าจ้างหรือค่าตอบแทนไม่ถึงเดือนละ ๑๕,๐๐๐ บาท
ให้ได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากเงินเดือน
หรือค่าจ้างหรือค่าตอบแทนอีกจนถึงเดือนละ ๑๕,๐๐๐ บาท
๓.ในกรณีที่ตำแหน่งของข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น
ลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้างตามภารกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ ก.จ.,ก.ท.
และ ก.อบต.ได้กำหนดให้คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งนั้น ต้องใช้วุฒิการศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาตรี
ให้ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้างประจำ
และพนักงานจ้างตามภารกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวมีเงินเดือนหรือเงินค่าจ้างหรือเงินค่าตอบแทนไม่ถึงเดือนละ
๑๒,๒๘๕ บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวเดือนละ ๑,๕๐๐ บาท
แต่เมื่อรวมกับเงินเดือน หรือค่าจ้างหรือค่าตอบแทนแล้ว ต้องไม่เกินเดือนละ ๑๒,๒๘๕
บาท
๔.ในกรณีที่ตำแหน่งพนักงานจ้างทั่วไปขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่
ก.จ.,ก.ท. และ
ก.อบต.ได้กำหนดให้คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งนั้นใช้วุฒิการศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาตรี
ให้พนักงานจ้างทั่วไปซึ่งบรรจุหรือแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวที่มีค่าตอบแทนไม่ถึงเดือนละ
๙,๐๐๐ บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากค่าตอบแทนอีกจนถึงเดือนละ
๙,๐๐๐ บาท
ทั้งนี้ข้อ ๒ -
๔ ให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๕ เป็นต้นไป
* ๕.กรณีข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น
และลูกจ้างประจำ
ซึ่งได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างถึงขั้นสูงของอันดับและค่ารับค่าตอบแทนพิเศษ
(ร้อยละ ๒-๔-๖)
ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการ
และลูกจ้างผู้ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างถึงขั้นสูงหรือใกล้ถึงขั้นสูงของอันดับหรือตำแหน่ง
พ.ศ.๒๕๕๐ เงินค่าตอบแทนพิเศษ (ร้อยละ ๒-๔-๖-๘)
ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินเดือนของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ
พ.ศ.๒๕๔๗ และกรณีพนักงานจ้างตามภารกิจที่ได้รับค่าตอบแทนเพิ่ม (ร้อยละ ๓-๕)
ตามการพิจารณาการเลื่อนขั้นประจำปี เมื่อรวมเงินค่าตอบแทนพิเศษดังกล่าวกับเงินเดือนหรือ
ค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนแล้ว หากมีจำนวนเงินหรือค่าจ้างหรือค่าตอบแทนยังไม่ถึงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
ให้ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้างประจำ
และพนักงานจ้างตามภารกิจได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวตามหลักเกณฑ์ในข้อ ๑ ข้อ
๒ หรือข้อ ๓ แล้วแต่กรณี
๖.การเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว
ซึ่งมิได้กำหนดไว้ในระเบียบนี้ให้ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินเดือนข้าราชการหรือลูกจ้างประจำ
แล้วแต่กรณีโดยอนุโลม
๗.ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกคำสั่งให้ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น
ลูกจ้างประจำ
และพนักงานจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว
โดยให้มีการตรวจสอบและปรับปรุงคำสั่งให้ถูกต้องและสอดคล้องกับอัตราเงินเดือน
ค่าจ้าง และค่าตอบแทนที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เช่น
การเลื่อนขั้นเงินเดือนประจำปี การปรับอัตราเงินเดือนตามวุฒิ
การเลื่อนระดับหรือตำแหน่ง เป็นต้น แล้วจัดส่งสำเนาคำสั่งให้จังหวัดเพื่อตรวจสอบจำนวน
๑ ชุด โดยไม่ต้องส่งให้สำนักงาน ก.จ., ก.ท. และ ก.อบต.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น