ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

การกำหนดโครงสร้างส่วนราชการ “สำนักบริหารกลาง”

ข้อหารือ

การกำหนดโครงสร้างส่วนราชการ “สำนักบริหารกลาง”
- ก.ท.จ.ปทุมธานี หารือการกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือก และมาตรฐานกำหนดตำแหน่งของผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง

คำวินิจฉัย

มีมติว่า
1. ประเด็นการกำหนดโครงสร้างส่วนราชการ “สำนักบริหารกลาง” โดยยุบรวมสำนักปลัดเทศบาล และกองวิชาการและแผนงานเข้าด้วยกัน
เพื่อมิให้เกิดปัญหาทางข้อกฎหมาย จึงให้แก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้นโดยการยุบรวมสำนักปลัดเทศบาล และกองวิชาการและแผนงาน เข้าด้วยกัน และให้คงเรียกชื่อส่วนราชการนั้นว่า “สำนักปลัดเทศบาล” โดยมีฐานะส่วนราชการเป็น “สำนัก” หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาลเป็นตำแหน่งในสายงานนักบริหาร งานทั่วไป ระดับ 9
สำหรับเกณฑ์การคัดเลือก ก็ให้ใช้หลักเกณฑ์การคัดเลือกหัวหน้าสำนักปลัดเทศบาล ระดับ 9 ตามมติ ก.ท.ครั้งที่ 7/2547 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2547
2. ประเด็นการคุ้มครองสิทธิผู้ได้รับผลกระทบจากการยุบรวมส่วนราชการ
พนักงานเทศบาลซึ่งเดิมดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักปลัดเทศบาล ระดับ 8 หรือผู้อำนวยการกองวิชาการและแผนงาน ระดับ 8 หากได้รับผลกระทบจากการยุบรวมส่วนราชการให้เป็นสำนักปลัดเทศบาล ระดับ 9 ให้ถือว่า ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักปลัดเทศบาล ระดับ 8 หรือผู้อำนวยการกองวิชาการและแผนงาน ระดับ 8 ตลอดจนสิทธิสวัสดิการเงินประจำตำแหน่งและค่าตอบแทน ที่เคยได้รับจะคงยังได้รับความคุ้มครองเป็นการเฉพาะราย หากต่อมาจะโอนไปดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักปลัดเทศบาล ระดับ 8 หรือผู้อำนวยการกองวิชาการและแผนงาน ระดับ 8ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นก็อาจกระทำได้ รวมทั้งสามารถนำระยะเวลาการดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักปลัด เทศบาล ระดับ 8 หรือผู้อำนวยการกองวิชาการและแผนงาน ระดับ 8 มานับรวมกับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการส่วน ระดับ 8 ซึ่งถูกผลกระทบจากการยุบรวมส่วนราชการนั้น เพื่อประโยชน์ในการคัดเลือกเพื่อเลื่อนและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้น ในตำแหน่งหัวหน้าสำนักปลัดเทศบาล ผู้อำนวยการสำนักวิชาการ (นักบริหารงานทั่วไป 9) ได้

หนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้อง


หลักเกณฑ์การปรับเทศบาลขนาดใหญ่ (มท 0809.2/ว 210)

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลักเกณฑ์การให้ทุนการศึกษา

หลักเกณฑ์การให้ทุนการศึกษาและการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๑.บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะรับทุนการศึกษาทั้งระดับปริญญาโทและปริญญาตรีจะต้อง - ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการคัดเลือกให้เป็นผู้รับทุนการศึกษา ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์ว่าด้วยการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น -ให้พิจารณาในสัดส่วนของผู้บริหารท้องถิ่นหรือสมาชิกสภาท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นฝ่ายละเท่าๆกัน และสามารถเฉลี่ยสัดส่วนกันได้ -สามารถเฉลี่ยจำนวนทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ก็สามารถทำได้ แต่ค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณต้องไม่เกินจำนวนที่สามารถตั้งงบประมาณได้ ทั้งนี้อยู่ในดุลยพินิจของผู้บริหาร ๒.บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีสิทธิรับทุนการศึกษา สามารถเข้าศึกษาในสาขาวิชาที่กำหนดเป็นคุณวุฒิตามคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งในทุกตำแหน่งที่คณะกรรมการกลางขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบจ. เทศบาล และ อบต.)กำหนด ๓.สาขาที่เข้าศึกษาควรเป็นหลักสูตรพิเศษที่ใช้เวลาการศึกษานอกเวลาราชการ ๔.ระหว่างการศึกษาโดยได้รับทุนก

คำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนเป็นคำสั่งทางปกครอง

คำสั่งศาลปกครองระยอง คดีหมายเลขแดงที่ 40/2546 สรุปข้อเท็จจริง ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และผู้อำนวยการโรงพยาบาลขลุง ออกคำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนให้แก่ผู้ฟ้องคดี ประจำปีงบประมาณ ๒๕๔๔ เพียง ๐.๕ ขั้น ทำให้ผู้ฟ้องคดีไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากเป็นการใช้อำนาจกลั่นแกล้ง ประเมินผลการปฏิบัติงานต่ำกว่าความเป็นจริง ผู้ฟ้องคดีจึงได้ร้องทุกข์ต่อ อ.ก.พ. จังหวัดจันทบุรี แต่ อ.ก.พ. จังหวัดจันทบุรี กลับยกคำร้องทุกข์ของผู้ฟ้องคดี ผู้ฟ้องคดีจึงนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครอง คำวินิจฉัย ศาลปกครองระยองพิจารณาแล้วเห็นว่า คำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนดังกล่าวเป็นคำสั่งทางปกครองตามนัยมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙และเนื่องจากพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ มิได้กำหนดวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองในเรื่องนี้ไว้โดยเฉพาะจึงต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงในคดีฟังได้ว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลขลุงมีเหตุโกรธเคือง และขัดแย้งกับผู้ฟ้องคดีมาก่อน จึงเห็นได้ว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลขลุงในฐานะผู

ครูผู้ดูแลเด็กเล็ก

ประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกกรณีพิเศษไม่ต้องสอบแข่งขันสำหรับหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและครูผู้ดูแลเด็กเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานครูเทศบาล คณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 8/2553 เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2553 เห็นชอบให้กำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกกรณีที่มรเหตุพิเศษโดยไม่จำเป็นต้องสอบแข่งขันสำหรับหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและครูผู้ดูแลเด็กเล็กเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานครูเทศบาล โดยมีสาระสำคัญดังนี้ - ตำแหน่งที่จะสามารถคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นกรณีพิเศษได้ ได้แก่พนักงานครูเทศบาลในตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ครูผู้ดูแลเด็กเล็ก และหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก - คุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกกรณีมีเหตุพิเศษ 1. ดำรงตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็ก และ/หรือ หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งจัดจ้างโดยงบประมาณเงินอุดหนุนจากรัฐและจากเงินรายได้ของท้องถิ่นติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี และ 2. เป็นผู้มีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล เรื่องมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเบื้องต้นสำหรับ