ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

หารือแนวทางปฏิบัติกรณีการลาออกจากราชการของพนักงานจ้าง

ข้อหารือ

หารือแนวทางปฏิบัติกรณีการลาออกจากราชการของพนักงานจ้าง
1. ประเด็นการยื่นหนังสือขอลาออกจากการปฏิบัติงาน
2. ประเด็นการไม่มาปฏิบัติงาน
3. ประเด็นการต่อสัญญาจ้าง

คำวินิจฉัย

มีมติว่า
1. ประเด็นการยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการ
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า เทศบาลตำบลกรอกสมบูรณ์ ได้รับหนังสือขอลาออกจากปฏิบัติงานของนายภูฌิมาฯ ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2551 นายกเทศมนตรีได้พิจารณาหนังสือขอลาออกและอนุญาตให้นายภูฌิมาฯ ลาออกได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2551 แล้วรายงาน ก.ท.จ.ปราจีนบุรี ขอความเห็นชอบ ในระหว่างการพิจารณาของ ก.ท.จ.ปราจีนบุรี นายภูฌิมาฯ ไม่ประสงค์จะใช้สิทธิขอลาออกจากการปฏิบัติงานต่อไป โดยยื่นหนังสือขอถอนหรือขอระงับการลาออกจากการปฏิบัติงานนั้นต่อ ก.ท.จ.ปราจีนบุรี
และนายกเทศมนตรีตำบลกรอกสมบูรณ์ก่อนที่นายกเทศมนตรีตำบลกรอกสมบูรณ์จะมีคำสั่งให้ลาออกจากการปฏิบัติงาน ย่อมมีสิทธิกระทำได้ และเมื่อขอถอนหรือระงับการขอลาออกจากการปฏิบัติงานแล้ว ก็ไม่มีกรณีจะต้องพิจารณาประเด็นเกี่ยวกับการขอลาออกจากการปฏิบัติงานอื่นอีก
2. ประเด็นการไม่มาปฏิบัติงาน
เห็นว่า กรณีนายภูฌิมาฯ ได้รับทราบด้วยวาจาจากหัวหน้างานการเจ้าหน้าที่ว่านายกเทศมนตรีตำบลกรอกสมบูรณ์ ได้อนุญาตให้ลาออกตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2551 จึงไม่มาปฏิบัติหน้าที่ราชการตั้งแต่วันที่ 1 – 23 มิถุนายน 2551 จะถือว่าเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงเนื่องจากละทิ้งหน้าที่ราชการเกินกว่าเจ็ดวัน ตามประกาศก.ท.จ. หรือไม่ นั้น ให้นายกเทศมนตรีตำบลกรอกสมบูรณ์ แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการสอบสวนโดยเร็ว และต้องให้โอกาสนายภูฌิมาฯ ชี้แจงและแสดงพยานหลักฐาน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ในกรณีที่ผลการสอบสวนปรากฎว่าพนักงานจ้างผู้นั้นกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้รายงาน ก.ท.จ. ปราจีนบุรี พิจารณา แต่ถ้าไม่มีกระทำผิดให้สั่งยุติเรื่อง และรายงาน ก.ท.จ.ปราจีนบุรี พิจารณา เมื่อ ก.ท.จ.ปราจีนบุรี มีมติประการใด ให้นายกเทศมนตรีตำบลกรอกสมบูรณ์ ปฏิบัติตามมตินั้น ภายในเจ็ดวันนับแต่วันรับทราบมติ แต่ถ้าไม่มีมูลกระทำความผิดให้สั่งยุติเรื่อง
3. ประเด็นการต่อสัญญาจ้าง
การต่อสัญญาจ้างให้นายภูฌิมาฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2552 และนายภูฌิมาฯ ได้มาปฏิบัติงานโดยตลอดถือเสมือนว่ายังมีสภาพเป็นพนักงานจ้าง จะได้รับค่าตอบแทนหรือไม่อย่างไร
เห็นว่า หากนายภูฌิมาฯ ผ่านการประเมินผลการปฏิบัติงาน และ ก.ท.จ.ปราจีนบุรี มีมติเห็นชอบในการต่อสัญญาจ้างให้นายภูฌิมาฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2552 แล้ว นายภูฌิมาฯ ได้มาปฏิบัติงานตลอดย่อมมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนตามประกาศ ก.ท.จ.ปราจีนบุรี เรื่องมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับพนักงานจ้าง แต่หากผลการสอบสวนวินัย ตามประเด็นที่สองแล้วพบว่า นายภูฌิมาฯ ขาดหรือหนีราชการ ห้ามมิให้จ่ายค่าตอบแทนสำหรับวันที่ขาดหรือหนีราชการนั้น ตามข้อ 74 ของประกาศดังกล่าว

หนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้อง

การต่อสัญญาจ้างพนักงานจ้าง(มท 0809.5/ว123)


การพิจารณาต่อสัญญาจ้างพนักงานจ้าง (มท 0809.5/ว122)


แนวทางปฏิบัติการต่อสัญญาจ้างพนักงาน จ้าง (มท 0809.5/ว277)


แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการจ้างและการ ต่อสัญญาจ้างพนักงานจ้างของอปท.



แบบประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงาน จ้างตามมาตราฐานทั่วไปเกี่ยวกับพนักงานจ้าง


แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับพนักงานจ้าง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลักเกณฑ์การให้ทุนการศึกษา

หลักเกณฑ์การให้ทุนการศึกษาและการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๑.บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะรับทุนการศึกษาทั้งระดับปริญญาโทและปริญญาตรีจะต้อง - ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการคัดเลือกให้เป็นผู้รับทุนการศึกษา ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์ว่าด้วยการตั้งงบประมาณเพื่อให้ทุนการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น -ให้พิจารณาในสัดส่วนของผู้บริหารท้องถิ่นหรือสมาชิกสภาท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นฝ่ายละเท่าๆกัน และสามารถเฉลี่ยสัดส่วนกันได้ -สามารถเฉลี่ยจำนวนทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ก็สามารถทำได้ แต่ค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณต้องไม่เกินจำนวนที่สามารถตั้งงบประมาณได้ ทั้งนี้อยู่ในดุลยพินิจของผู้บริหาร ๒.บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีสิทธิรับทุนการศึกษา สามารถเข้าศึกษาในสาขาวิชาที่กำหนดเป็นคุณวุฒิตามคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งในทุกตำแหน่งที่คณะกรรมการกลางขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบจ. เทศบาล และ อบต.)กำหนด ๓.สาขาที่เข้าศึกษาควรเป็นหลักสูตรพิเศษที่ใช้เวลาการศึกษานอกเวลาราชการ ๔.ระหว่างการศึกษาโดยได้รับทุนก

คำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนเป็นคำสั่งทางปกครอง

คำสั่งศาลปกครองระยอง คดีหมายเลขแดงที่ 40/2546 สรุปข้อเท็จจริง ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และผู้อำนวยการโรงพยาบาลขลุง ออกคำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนให้แก่ผู้ฟ้องคดี ประจำปีงบประมาณ ๒๕๔๔ เพียง ๐.๕ ขั้น ทำให้ผู้ฟ้องคดีไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากเป็นการใช้อำนาจกลั่นแกล้ง ประเมินผลการปฏิบัติงานต่ำกว่าความเป็นจริง ผู้ฟ้องคดีจึงได้ร้องทุกข์ต่อ อ.ก.พ. จังหวัดจันทบุรี แต่ อ.ก.พ. จังหวัดจันทบุรี กลับยกคำร้องทุกข์ของผู้ฟ้องคดี ผู้ฟ้องคดีจึงนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครอง คำวินิจฉัย ศาลปกครองระยองพิจารณาแล้วเห็นว่า คำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนดังกล่าวเป็นคำสั่งทางปกครองตามนัยมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙และเนื่องจากพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ มิได้กำหนดวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองในเรื่องนี้ไว้โดยเฉพาะจึงต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงในคดีฟังได้ว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลขลุงมีเหตุโกรธเคือง และขัดแย้งกับผู้ฟ้องคดีมาก่อน จึงเห็นได้ว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลขลุงในฐานะผู

ครูผู้ดูแลเด็กเล็ก

ประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกกรณีพิเศษไม่ต้องสอบแข่งขันสำหรับหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและครูผู้ดูแลเด็กเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานครูเทศบาล คณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 8/2553 เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2553 เห็นชอบให้กำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกกรณีที่มรเหตุพิเศษโดยไม่จำเป็นต้องสอบแข่งขันสำหรับหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและครูผู้ดูแลเด็กเล็กเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานครูเทศบาล โดยมีสาระสำคัญดังนี้ - ตำแหน่งที่จะสามารถคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นกรณีพิเศษได้ ได้แก่พนักงานครูเทศบาลในตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ครูผู้ดูแลเด็กเล็ก และหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก - คุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกกรณีมีเหตุพิเศษ 1. ดำรงตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็ก และ/หรือ หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งจัดจ้างโดยงบประมาณเงินอุดหนุนจากรัฐและจากเงินรายได้ของท้องถิ่นติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี และ 2. เป็นผู้มีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล เรื่องมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเบื้องต้นสำหรับ