ข้อหารือ
หารืออำนาจหน้าที่ในการดำเนินการทางวินัยพนักงานเทศบาล กรณีลาออกจากราชการ
- กรณีนายสุทัศน์ฯ ผู้ถูกกล่าวหาได้มีหนังสือร้องทุกข์ไปยัง ก.ท.จ.ปัตตานี ขอให้ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าตนได้ขออนุญาตและได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการ ก่อนที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 15 จะมีหนังสือ ชี้มูลความผิดมายังเทศบาลเมืองปัตตานี นายกเทศมนตรี จึงไม่สามารถดำเนินการทางวินัยตามนัย ข้อ 27 ของประกาศ ก.ท.จ.ปัตตานี กับตนได้
- จังหวัดปัตตานี เห็นว่า เมื่อมีการกล่าวหาเทศบาลเมืองปัตตานี ถือได้ว่าผู้บริหาร เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องมีกรณีถูกกล่าวหาตามข้อ 24 แล้ว แม้สำนักงานการตรวจเงินภูมิภาค ที่ 15 จะชี้มูลความผิดให้นายก เทศมนตรีเมืองปัตตานีทราบ ภายหลังจากที่นายสุทัศน์ฯ ได้ออกจากราชการไปแล้วก็ตาม นายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี ก็สามารถดำเนินการทางวินัยกับนายสุทัศน์ฯ ต่อไปได้เสมือนว่ายังมิได้ออกจากราชการตามประกาศ ก.ท.จ.ปัตตานี
คำวินิจฉัย
มีมติว่า นายสุทัศน์ฯ มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำหรือละเว้นกระทำการที่พึงเห็นได้ว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นการกล่าวหาเป็นหนังสือต่อผู้มีหน้าที่สืบสวนสอบสวน หรือตรวจสอบตามกฎหมายหรือระเบียบของทางราชการ ตามข้อ 24 ของประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับวินัยและการรักษาวินัย และการดำเนินการทางวินัย ลงวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2544 หรือไม่ ซึ่งถ้ามีกรณีดังกล่าวอยู่ก่อนออกจากราชการผู้บังคับ บัญชาก็ยังมีอำนาจดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงแก่บุคคลดังกล่าวได้ หากมูลกรณีของเรื่องเกิดขึ้นโดยมีผู้ส่งหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 15 โดยไม่ได้ระบุชื่อและพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาไว้อย่างชัดเจนคงอ้างแต่เพียงพฤติการณ์โดยรวม ซึ่งขณะนั้นยังไม่อาจถือได้ว่า นายสุทัศน์ฯ กับพวกมีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำหรือละเว้นกระทำการที่พึงเห็นได้ว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ดังนั้น จึงให้จังหวัดปัตตานี ขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 15 ว่าเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบสำนวน และผู้ร่วมตรวจสอบ ได้ตรวจสอบสืบสวนเสร็จสิ้น และเสนอรายงานการตรวจสอบสืบสวนต่อผู้บังคับบัญชา และเสนอต่อผู้อำนวยการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาค อันมีลักษณะเป็นการรายงานกล่าวหาว่านายสุทัศน์ฯ กับพวก มีพฤติการณ์เป็นการทุจริตโดยรายงานกล่าวหาและผู้มีอำนาจหน้าที่ได้รับรายงานในแต่ละขั้นตอนเมื่อใดบ้าง เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาว่า นายสุทัศน์ฯ กับพวกมีกรณี ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง โดยกล่าวหาเป็นหนังสือต่อผู้มีหน้าที่สืบสวนสอบสวน หรือตรวจสอบตามกฎหมายหรือระเบียบของทางราชการอยู่ก่อนออกจากราชการหรือไม่
หนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้อง
แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการ ทางวินัยข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด พนักงานเทศบาลและพนักงานส่วนตำบล หลังพระราชบัญญัติล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาลสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิ พลอดุลยเดชมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ.2550 มีผลใช้บังคับ(มท 0809.6/ว110)
หารืออำนาจหน้าที่ในการดำเนินการทางวินัยพนักงานเทศบาล กรณีลาออกจากราชการ
- กรณีนายสุทัศน์ฯ ผู้ถูกกล่าวหาได้มีหนังสือร้องทุกข์ไปยัง ก.ท.จ.ปัตตานี ขอให้ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าตนได้ขออนุญาตและได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการ ก่อนที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 15 จะมีหนังสือ ชี้มูลความผิดมายังเทศบาลเมืองปัตตานี นายกเทศมนตรี จึงไม่สามารถดำเนินการทางวินัยตามนัย ข้อ 27 ของประกาศ ก.ท.จ.ปัตตานี กับตนได้
- จังหวัดปัตตานี เห็นว่า เมื่อมีการกล่าวหาเทศบาลเมืองปัตตานี ถือได้ว่าผู้บริหาร เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องมีกรณีถูกกล่าวหาตามข้อ 24 แล้ว แม้สำนักงานการตรวจเงินภูมิภาค ที่ 15 จะชี้มูลความผิดให้นายก เทศมนตรีเมืองปัตตานีทราบ ภายหลังจากที่นายสุทัศน์ฯ ได้ออกจากราชการไปแล้วก็ตาม นายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี ก็สามารถดำเนินการทางวินัยกับนายสุทัศน์ฯ ต่อไปได้เสมือนว่ายังมิได้ออกจากราชการตามประกาศ ก.ท.จ.ปัตตานี
คำวินิจฉัย
มีมติว่า นายสุทัศน์ฯ มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำหรือละเว้นกระทำการที่พึงเห็นได้ว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นการกล่าวหาเป็นหนังสือต่อผู้มีหน้าที่สืบสวนสอบสวน หรือตรวจสอบตามกฎหมายหรือระเบียบของทางราชการ ตามข้อ 24 ของประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับวินัยและการรักษาวินัย และการดำเนินการทางวินัย ลงวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2544 หรือไม่ ซึ่งถ้ามีกรณีดังกล่าวอยู่ก่อนออกจากราชการผู้บังคับ บัญชาก็ยังมีอำนาจดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงแก่บุคคลดังกล่าวได้ หากมูลกรณีของเรื่องเกิดขึ้นโดยมีผู้ส่งหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 15 โดยไม่ได้ระบุชื่อและพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาไว้อย่างชัดเจนคงอ้างแต่เพียงพฤติการณ์โดยรวม ซึ่งขณะนั้นยังไม่อาจถือได้ว่า นายสุทัศน์ฯ กับพวกมีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำหรือละเว้นกระทำการที่พึงเห็นได้ว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ดังนั้น จึงให้จังหวัดปัตตานี ขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 15 ว่าเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบสำนวน และผู้ร่วมตรวจสอบ ได้ตรวจสอบสืบสวนเสร็จสิ้น และเสนอรายงานการตรวจสอบสืบสวนต่อผู้บังคับบัญชา และเสนอต่อผู้อำนวยการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาค อันมีลักษณะเป็นการรายงานกล่าวหาว่านายสุทัศน์ฯ กับพวก มีพฤติการณ์เป็นการทุจริตโดยรายงานกล่าวหาและผู้มีอำนาจหน้าที่ได้รับรายงานในแต่ละขั้นตอนเมื่อใดบ้าง เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาว่า นายสุทัศน์ฯ กับพวกมีกรณี ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง โดยกล่าวหาเป็นหนังสือต่อผู้มีหน้าที่สืบสวนสอบสวน หรือตรวจสอบตามกฎหมายหรือระเบียบของทางราชการอยู่ก่อนออกจากราชการหรือไม่
หนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้อง
แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการ ทางวินัยข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด พนักงานเทศบาลและพนักงานส่วนตำบล หลังพระราชบัญญัติล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาลสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิ พลอดุลยเดชมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ.2550 มีผลใช้บังคับ(มท 0809.6/ว110)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น